วันจันทร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2557

พวกเรือใบบุกตระหน่ำเหล่านักบุญคาคฤหาสน์ 3-0 โจนขึ้นไปอุปจ่าฝูง

พวกเรือใบบุกถล่มกลุ่มนักบุญคาบ้าน3-0 ทะยานขึ้นรองจ่าฝูง




เพราะที่ 1.ยาย่า, 2.แลมพาร์ด, พร้อมด้วย 3.กลิชี่ ได้ซัดกันคนละประตู ช่วยให้ กลุ่มเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาเชือด กลุ่มนักบุญ เซาแธมป์ตันคาถิ่น 3-0 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2014-2015

ซึ่งศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน 2557 เป็น การโคจรมาพบกันของ 2 ฝ่ายหัวตาราง ระหว่าง กลุ่มนักบุญ เซาแธมป์ตัน รองจ่าฝูง เปิดรัง เซนต์แมรี่ส์ ต้อนรับการมาเยือนของ คณะเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คณะอันดับที่ 3 ของตาราง 

โดยเพราะว่าในเกมนี้ฝั่งเจ้าบ้าน โรนัลด์ คูมัน จัดทัพใหญ่ลงสนาม นำมาเพราะ

  • มอร์แกน ชไนเดอร์แลง
  • ดูซาน ทาดิช
  • สตีเว่น เดวิส
  • ซาดีโย มาเน 
  • กราเซียโน่ เปลเล่ ที่เป็นหัวหอกตัวความหวัง 


ทางด้านหมู่เยือนของ มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือใหญ่ ได้จัดทัพที่ดีที่สุดของกลุ่มลงสนาม นำทัพมาเพราะ

  • ยาย่า ตูเร่
  • แฟร์นันดิญโญ่
  • ซาเมียร์ นาสรี่
  • สเตวาน โยเวติช 
  • เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน


ซึ่งปางริเริ่มเกมการแข่งขันโปรแกรมบอล นาทีที่ 5 ทีมเยือน แมนฯ ซิตี้ ได้ทักทายก่อนจากจังหวะ ยิงไกลของ กาแอล กลิชี่ แต่บอลเหินออกหลังไปไกล

ในนาทีที่ 15 คณะแมนฯ ซิตี้ นั้นยังครองเกมส่วนใหญ่เอาไว้ได้ ยาย่า ตูเร่ ส่องไกล แต่บอลไปตรงตัว เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ รับเอาไว้ได้สบายๆ

ต่อมาในนาทีที่ 20 แฟน กรุ๊ปนักบุญ เกือบได้เฮ จากจังหวะโยนบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษของ ชไนเดอร์แลง ให้กับ กราเซียโน่ เปลเล่ แต่เจ้าตัวยิงไปติด โจ ฮาร์ท บอลกระดอนออกมา สตีเว่น เดวิส ซ้ำไปติดเซฟ โจ ฮาร์ท มาเข้าทาง ดูซาน ทาดิช แต่เจ้าตัวก็ยิงไม่ทะลุ โดน โจ ฮาร์ท บล็อกลูกออกหลังไปได้หวุดหวิด

นาทีที่ 30 ฝ่ายแมนฯ ซิตี้ นั้นเกือบได้ประตู จากจังหวะที่ ซาเมียร์ นาสรี่ จ่ายให้ โยเวติช หลุดเข้าไปยิง ติดเซฟ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ บอลปลิ้นเกือบจักเข้าประตู แต่โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ตามมาเคลียร์ทิ้งได้ที่เส้นประตู หวุดหวิดจะเสียประตูให้กับ แมนฯซิตี้

พร้อมด้วยช่วงเวลาที่เหโจษจันนั้น เจ้าบ้าน หมู่เซาแธมป์ตัน ดูจักตั้งเกมของพวกเขาได้ ด้วยกันเริ่มทำโจมตีแนวรับของ หมู่แมน ฯ ซิตี้ บ่อยมากขึ้น แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เป็นได้พาบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้

ทางด้านของหมู่เยือน ดูเหมือนจักเครื่องช็อตไปบ้างในช่วงท้ายๆ ครึ่งแรก แต่เพราะรวมยังถือว่าเล่นกันได้ดี มีจังหวะเข้าทำดีๆหลายครั้ง พร้อมทั้งใกล้เคียงมากที่สุดของเกมนี้คงจักเป็น จังหวะยิงของ สเตวาน โยเวติช แต่บอลไปถูก อัลเดอร์ไวเรลด์ เคลียร์ทิ้งจากเส้นประตูได้ทัน จบเกมการแข่งขันในครึ่งแรก ทีมเซาแธมป์ตัน เปิดบ้านเสมอ เหล่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0

เกริ่นเกมส์ในครึ่งหลัง โรนัลด์ คูมัน ได้เปลี่ยนสำรองคนแรกทันที โดยส่ง มายะ โยชิดะ ลงแทนที่ มอร์แกน ชไนเดอร์แลง

ในนาทีที่ 47 ดูซาน ทาดิช พาบอลมาทางริมเส้นด้านขวาก่อนตัดเข้าในแล้วซัดด้วยเท้าซ้ายทันที บอลพุ่งออกหลังไปแบบได้ลุ้น

เพราะในนาทีที่ 50 กองสนับสนุนฝั่ง กรุ๊ปเรือใบสีฟ้า ก็ได้เฮกันลั่น เซนต์แมรี่ส์ จากจังหวะที่ เซร์คิโอ อเกวโร่ พาบอลเลาะไปทางด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ ก่อนจ่ายคืนหลังออกมาให้ ยาย่า ตูเร่ ที่รออยู่เเล้วตะบันเลียดเข้าไปบอลนั้นแฉลบขาอัลเดอร์ไวเรลด์ นิดนึงก่อนจักเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม ส่งให้ ฝ่ายแมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาขึ้นนำ คณะเซาแธมป์ตัน 1-0

ซึ่งในนาทีที่ 54 ฝ่ายแมนเชสเตอร์ซิตี้ ได้เปลี่ยนสำรองคนแรกส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงแทนที่ สเตวาน โยเวติช

ช่วงนาทีที่ 63 กุน อเกวโร่ พาบอลเลี้ยงจี้เข้ามาที่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะจ่ายให้ เจมส์ มิลเนอร์ ยิงแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

ช่วงนาทีที่ 64 ฝ่ายแมน ฯ ซิตี้ เปลี่ยนสำรองอีกคน ส่ง แฟร้งค์ แลมพาร์ด ลงแทนที่ ซาเมียร์ นาสรี่

เพราะว่าในนาทีที่ 66 ทีมเซาแธมป์ตัน ได้เปลี่ยนตัวเอา เชน ลอง ลงไปแทนที่ ซาดีโย มาเน

ซึ่งในนาทีที่ 72 เฆซุส นาบาส ฉกบอลจากแนวรับ เซาแธมป์ตัน ก่อนยิงทันที บอลหลุดทะลุเสาออกไปนิดเดียว

ในนาทีที่ 74 คณะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต้องมาเหละบือผู้เล่นเพียงแค่ 10 คน จากจังหวะที่ เชน ลอง ไปฉกบอลจาก ยาย่า ตูเร่ ได้ แล้วพาบอลหลุดเข้าไปหน้ากรอบเขตโทษ ไปโดน เอเลียกิม ม็องกาลา สกัดล้มลงไป ไมค์ โจนส์ ผู้ตัดสินในเกมนี้เป่าให้ พวกเซาแธมป์ตัน ได้ฟาวล์ พร้อมกับแจกใบเหเอิกเกริกงที่ 2 ให้ ม็องกาลา เป็นใบแดง ไล่ออกจากสนามไป

ในนาทีที่ 75 มานูเอล เปเยกรินี่ ได้เปลี่ยนเอา มาร์ติน เดมิเคลิส ลงไปแทนที่ เฆซุส นาบาส

นาทีที่ 80 กองเชียร์ เรือใบสีฟ้า มาได้เฮกันลั่นสนามอีกครั้งจากจังหวะ สวนกลับ เจมส์ มิลเนอร์ พาบอลตะลุยขึ้นมาทางด้านซ้าย ก่อนจ่ายเข้ามาที่หน้ากรอบเขตโทษให้กับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เจ้าตัวยิงเต็มข้อบอลเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม ชนิดที่ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ ได้แต่ยืนมอง ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมานำห่าง เซาแธมป์ตัน 2-0

ในนาทีที่ 81 กลุ่มเซาแธมป์ตัน เปลี่ยนสำรองคนสุดท้าย ส่ง อิมแมนิวเอล มายูกา ลงไปแทนที่ สตีเว่น เดวิส

ซึ่งในนาทีที่ 83 กุน อเกวโร่ ได้โอกาสทองจากจังหวะหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ แต่ศูนย์หน้าอาเจนไตน์ ดันยิงไปติดเซฟ ฟอร์สเตอร์ ซะอย่างนั้น

ภายหลังนั้นนาทีที่ 85 เชน ลอง วิ่งทำทางมาเอาบอลก่อนจ่ายไซด์ก้อยเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ กราเซียโน่ เปลเล่ เข้าทำ แต่ศูนย์หน้าอิตาเลี่ยนเข้าไม่ทัน พลาดโอกาสทองไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 87 แมนฯ ซิตี้ ขยับสกอร์ห่างไปเป็น 3-0 จากจังหวะสวนกลับเร็ว กุน อเกวโร่ จ่ายถวายพานมาให้กับ กาแอล กลิชี่ ที่เติมขึ้นมาในกรอบเขตโทษซัดเน้นๆส่ง บอลเข้าไปตุงตาข่ายให้ แมนฯ ซิตี้ หนีห่าง เซาแธมป์ตัน 3-0

ในช่วงเวลาที่เหลือ เหล่าแมนฯ ซิตี้ ปิดเกมของพวกเขาได้ทั้งหมด แม้ว่า เจ้าบ้านจะพยายามทำประตูหวังตีไข่แตกไล่มา แต่ก้ไม่เป็นได้เจาะแนวรับของ ซิตี้ ได้ จบเกมการแข่งขัน เซาแธมป์ตัน เปิดบ้านพ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ผลบอล 0-3


มาดูสารบาญ 11 ตัวแน่นอน ฝ่ายเซาแธมป์ตัน :

  1. เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์
  2. นาธาเนียล ไคลน์
  3. โจเซ่ ฟอนเต้
  4. โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์
  5. ไรอัน เบอร์ทรานด์
  6. วิคเตอร์ วานยามา
  7. มอร์แกน ชไนเดอร์แลง ( มายะ โยชิดะ เปลี่ยนลงมาในนาทีที่ 46 )
  8. ดูซาน ทาดิช
  9. สตีเว่น เดวิส ( อิมแมนิวเอล มายูกา เปลี่ยนลงมาในนาทีที่ 81 )
  10. ซาดีโย มาเน ( เชน ลอง เปลี่ยนลงมาในนาทีที่ 66 )
  11. กราเซียโน่ เปลเล่


รายการตัวสำรอง :

  1. เคลวิน เดวิส
  2. โฟลริน การ์โดช
  3. แฮร์ริสัน รี้ด
  4. แมตต์ ทาร์เกตต์


มาดูรายนาม 11 ตัวครัน กรุ๊ปแมนเชสเตอร์ ซิตี้ :

  1. โจ ฮาร์ท
  2. ปาโบล ซาบาเลต้า
  3. แวงซองต์ กอมปานี
  4. เอเลียกิม ม็องกาลา
  5. กาแอล กลิชี่
  6. เฆซุส นาบาส ( มาร์ติน เดมิเคลิส เปลี่ยนลงมาในนาทีที่ 75 )
  7. ยาย่า ตูเร่
  8. แฟร์นันดิญโญ่
  9. ซาเมียร์ นาสรี่ ( แฟร้งค์ แลมพาร์ด เปลี่ยนลงมาในนาทีที่ 64 )
  10. สเตวาน โยเวติช ( เจมส์ มิลเนอร์ เปลี่ยนลงมาในนาทีที่ 54 )
  11. เซร์คิโอ อเกวโร่


รายนามตัวสำรอง :

  1. บาการี่ ซาญ่า
  2. เฟร์นานโด
  3. วินลี่ กาบาเยโร
  4. โฆเซ่ อังเคล โปโซ่


กรรมการผู้ตัดสิน : ไมค์ โจนส์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น